วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หน้าที่ของคำในภาษาอังกฤษ (ภาคต่อ)

5. คำสันธาน (conjuction) เป็นคำที่ใช้เชื่อมคำต่อคำ ประโยคต่อประโยค เช่น

and or but then so therefore etc. เป็นคำที่เติมเต็มประโยคให้สมบูรณ์
Jatuporn and Veera go shopping. จตุพรและวีระไปชอปปิ้งกัน (กระหนุงกระหนิง)
Do you want tea or coffee? คุณต้องการชาหรือกาแฟคะ
He has to go to the market, then he goes to the the bank. เขาต้องไปที่ตลาด แล้วเขาจึงไปที่สวนสัตว์
He works hard, so he is rich. เขาทำงานหนัก ดังนั้น เขาจึงรวย

คำที่เชื่อมคำต่อคำ อาจเป็นคำนามกับคำนาม ส่วนใหญ่จะใส่ conj. (สันธาน) ไว้ระหว่างคำเลย เช่น you and me, me or that girl.

แต่คำที่เชื่อมระหว่างประโยคต่อประโยค มีบางคำที่จะต้องใส่ comma (,) ไว้คั่นประโยคด้วยนะครับ เป็นส่วนใหญ่

คำ conjunction (สันธาน) จะมีหลายคำครับ เช่น although, even though, because, since, when, while
เยอะแยะครับ แต่ก็ละไ้ว้ในฐานที่เข้าใจ

6. คำบุรพบท (preposition) คือ คำบอกสถานที่ เช่น in, on , under, to, inside, into, near (ง่ายไปไหมเนี่ย) ประมาณนี้ บางครั้ง คำบุรพบท (หรือบุพบทก็ไม่รู้ ถ้าผิดขออภัย) ก็ไม่ใช่คำบอกสถานที่อย่างเดียวนะครับ (อ้าว! กลับกลอกนี่หว่า) ง่ายๆ น่ะครับ คือ บอกสถานที่ แต่คำบุพบทนี้มีหน้าที่เยอะมาก มีทั้งหมดร้อยกว่าคำ (ใครจำได้ก็เก่ง)
โดยหลักๆ คำบุพบทคือบอกสถานที่และมีอีกอย่างคือ ตามหลังคำกริยา ไอ้ตัวนี่แหละครับ ที่ทำให้ปวดหัว ฝรั่งเขาเรียก phrasal verb (จริงๆเรียกกันทั่วโลก) เอาแค่ยกตัวอย่างก็มึนแล้ว

เช่น คำกริยา ว่า look แปลว่า มองดู ถ้าเติมคำบุพบทเหล่านี้เข้าไป ดูซิว่าเป็นยังไง

look into แปลว่า ตรวจอย่างละเอียด
look down ดูถูก ดูหมิ่น
look for ค้นหา
look out ระวัง
look after ดูแล

สรุปแล้ว ยังมีอีก 10 กว่าลุคนะครับ ขี้เกียจสาธยาย สรุปอีกที ถ้าเจอพวกนี้ ต้องอาศัย dictionary อย่างเดียวเลยครับ แต่ถ้าจะพกติดตัว dictionary ถ้าจะให้ละเอียดมันต้องพกอย่างพันกว่าหน้า หลังอานแน่ๆ เอาง่ายๆ จะไปไหนมาไหน พก dictionary เล่มเล็กๆ หนึ่งเล่ม หนังสือ phrasal verb หนึ่งเล่มและ กริยาสามช่อง อีกหนึ่งเล่ม จะเข้าท่ากว่า

อ่ะ สุดท้ายแล้ว
7. คำอุทาน ง่ายสุดแล้ว คืออุทานน่ะแหละ อุ๊ยตาย ว๊าย กรี๊ด โอว พระเจ้า อะไรทำนองเนี๊ย

well, แปลว่า เ้อ่อ หรือใช้สำหรับเปลี่ยนเรื่องพูด
oh หรือ Oh my god หรือ Oh my god หรือ Oh, my lord หรือ My goodness ก็ไม่ว่ากัน รู้ความหมายกันอยู่แล้วครับ
ก็หัดจำโดยการดูหนังฝรั่งหรือฟังข่าวฝรั่งเยอะๆ น่ะครับ ฝรั่งชอบอุทาน คนไทยก็เลยชอบอุทานตามฝรั่ง

หมดแล้วครับ เรื่องหน้าที่ของคำ วันหลังว่าจะเขียนเรื่อง tense น่ะครับ (ถ้าไม่เปลี่ยนใจซะก่อน) ถ้ามีสิ่งใดตกหล่นก็ขออภัย เพราะไม่ได้เขียนเป็นวิชาการน่ะครับ ถ้ามีอะไรจะเสริม ก็ค่อยมาเสริมวันหลังแล้วกัน

******************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น